ค่ามอสเฟตจากดาต้าชีทมอสเฟตที่ควรรู้จักและตัวอย่างจริงในตาราง เริ่มจากกระแส แรงดัน วัตต์ ความต้านทานและค่าอื่นๆ อีกหลายอย่าง เริ่มจากการดูตัวถังก่อน เช่น เป็นตัวถังแบบ TO-220AB จากนั้นดูโครงสร้างว่าเป็นชนิด N แชนแนล หรือ P แชนแนล ถ้าเป็นมอสเฟตที่ใช้ขับโหลดพวกมอเตอร์หรือโหลดแบบอินดักทิฟจะมีไดโอดอยู่ระหว่างขา D และ S ใช้ป้องการขา D และ S เสียหายจากแรงดัน
รูปแรกตัวเล็กตัวถัง TO-220 รูปที่ 2 ตัวถัง TO-247
ตัวอย่างเบอร์มอสเฟต และ ค่าสเปคทางไฟฟ้า
1) ค่ากระแส I (D) คือ กระแสเดรนค่าต่อเนื่อง ( Contineous Drain Current ) ใช้ค่าเท่ากันหรือสูงกว่าได้
2) แรงดัน V BR(DSS) คือแรงดันเบรคดาวน์ระหว่างขา D และ S ใช้ค่าเท่ากันหรือสูงกว่าได้
3) แรงดัน V GS ( th ) เป็นแรงดันขาเกตขั้นต่ำที่ทำให้มอสเฟต ON หรือเริ่มนำกระแส ( Gate to Source threshold Voltage ) ให้ใช้ค่าเท่ากันหรือหรือต่ำกว่าก็ได้ ห้ามใช้ค่าสูงกว่าเนื่องจากต้องใช้แรงดันมากกว่าเพื่อสั่งให้มอสเฟตทำงาน ON
4) PD Max กำลังไฟฟ้าของมอสเฟตมีหน่วยเป็นวัตต์ เบอร์แทนค่าวัตต์ต้องเท่ากันหรือสูงกว่าได้
5) ค่าความต้านทานขณะนำกระแส หรือ r DS ( ON ) ยิ่งต่ำยิ่งดี ทำให้ร้อนน้อยและการสูญเสียขณะนำกระแสน้อย
6) อินพุตคาปาซิแตนซ์ หรือ Ciss ( input capacitance ) ตรงขาเกตของมอสเฟตมีลักษณะเหมือนคาปาซิเตอร์ค่านี้มีความคำคัญสำหรับงานสวิตชิ่ง มีผลเรื่องความถี่ในการสวิตชิ่ง ต้องนำไปคำนวณวงจรขับขาเกต ( Gate Charge Driver ) ให้ใช้ค่าเท่าเดิมหรือใกล้เคียงค่าเดิมให้มากที่สุด ใช้ค่าน้อยกว่าได้แต่ห้ามใช้ค่ามากกว่าของเดิม
7) ค่าที่เกี่ยวกับระยะเวลาการสวิตชิ่ง มีผลต่อการทำงานที่ความถี่สูง ให้ใช้ค่าเท่าเดิม หรือต่ำกว่าเดิม ถ้าใช้ค่าเวลาที่สูงกว่า มันจะทำงานสวิตชิ่งไม่ทันผลคือวงจรอาจไม่ทำงานหรือเกิดการสูญเสียจากการสวิตชิ่งสูง
td (ON) = Turn - On delay time
tr = Rise time
td (OFF) = Turn - Off delay time
มอสเฟต รุ่นมีไดโอดอยู่ระหว่างขา D และ S ใช้ป้องการขา D และ S เสียหายจากแรงดัน
4 อาการ เพาเวอร์ซัพพลาย เสีย Power supply เสียอาการต่างๆ อ่านที่นี้
วิธีการใช้มัลติมิเตอร์ วัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
มี 15 บท การใช้งานมัลติมิเตอร์ เพื่อวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- เช็ค ดี / เสีย เป็น
- วัดอุปกรณ์เป็น ครบอุปกรณ์ที่สำคัญ
- เตรียมตัวไปทำงาน หรือ สมัครงาน มีพื้นฐานดี สามารถต่อยอดไปได้ไกล
บริษัทหรือหน่วยงานต่างๆต้องการคนที่มีพื้นฐานดีและเตรียมพร้อมจะทำงาน
เมื่อเข้าไปทำงานแล้วใช้เวลาเรียนรู้งานไม่มาก
- ลดต้นทุน ใช้ของให้คุ้มค่า อุปกรณ์หายากแล้วจำเป็นต้องซ่อมเพื่อใช้งานต่อ
ทำงานเกี่ยวกับการซ่อมบำรุง
อ่านได้ที่ Google play books กดที่รูปปกหนังสือ จะไปยังหน้าเพจหนังสือให้
ปก หนังสือ E- book " การวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับงานซ่อม "
อ่านได้ที่ Google play books มี 15 บท ในเล่ม
มีรูปประกอบเยอะ เข้าใจง่าย
สาธิตวิธีวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีรูปประกอบเยอะและมีตัวอย่างชัดๆ
> เข้าใจง่ายเพราะมีรูปประกอบจำนวนมาก
> สะดวกสำหรับยุคนี้ คือ อ่านผ่าน App " Google Play Books " ในมือถือ
สำหรับมือใหม่และคนที่สนใจการวัดอุปกรณ์ดีเสียเพื่อซ่อมวงจรและทำงานเกี่ยวกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หนังสือ " การวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับงานซ่อม " นี้
มีเนื้อหาถึง 15 บท โดยครอบคลุมการวัดอุปกรณ์ที่สำคัญ ๆ อ่านได้ที่
Google Play Books โดยทำตาม 2 ขั้นตอน ต่อไปนี้
1) ลง App ก่อน ชื่อแอป Google Play Books (อยู่ที่ Play Store ในมือถือ )
2) ค้นหาชื่อหนังสือ ...... ค้นหาผ่าน google ........ โดยใช้ชื่อหนังสือค้น หรือ ใช้คำค้นว่า
" 15 Lesson Test Electronic Components (Thai ) การวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับงานซ่อม "
หรือ คลิกตามด้านล่างนี้ จะพาไปยังหน้าหนังสือนี้เลย ที่ Google Play Books
ตัวอย่าง หัวข้อในหนังสือ
ครบ การวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ หนังสือ " การวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับงานซ่อม "
มี 15 บท มีให้อ่านที่ร้านอีบุ๊คชั้นนำ Google Play Books และ MEBMARKET
หนังสือสำหรับ ช่างซ่อม นักศึกษา วิทยาลัยเทคนิค อาชีวะ สายอาชีพ และผู้ทีสนใจหนังสือช่าง
สารบัญมี 15 บท ดังนี้
1) วิธีวัดไอจีบีที 2) วิธีวัดมอสเฟต 3) วิธีวัดไตรแอค 4) วิธีวัดเอสซีอาร์
5) วิธีวัดทรานซิสเตอร์ 6) วิธีวัดไอซี DIP 8 ขา 16 ขา 20 ขา 7) วิธีวัดไอซี OPTO
8) วิธีวัดไอซีเร็กกูเลเตอร์ตระกูล 78XX 79XX
9) วิธีวัดไดโอด 10) วิธีวัดซีเนอร์ไดโอด 11) วิธีวัดไดโอดบริดจ์ ขั้นเทพ
12) วิธีวัด LED 13) วิธีวัดตัวต้านทาน 14) วิธีวัดตัวต้านทานปรับค่าได้ วัด VR
15) วิธีวัดคาปาซิเตอร์
อ่านที่ Mebmarket ได้ทั้ง Android และ IOS
Mebmarket ร้าน E book ชั้นนำของไทย
ใช้ชื่อหนังสือค้นใน google ก็เจอ เช่นกัน
ชื่อ : การวัดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับงานซ่อม